มาทำเวลาว่างของพวกเรา ให้เกิดประโยชน์กันเถอะนะคะ

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

ท่องเที่ยววันหยุด แต่งกายอาเซียน และสวดมนต์ข้ามปี

กิจกรรม กิจกรรม และกิจกรรม


"แคว้นโบราณ ด่านเจดีย์ มณีเมืองกาญจน์ สะพานข้ามแม่น้ำแคว แหล่งแร่น้ำตก" 

          "เมืองกาญจน์" หรือ กาญจนบุรี เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคกลางที่มีผู้คนนิยม เดินทางไปท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก "เมืองกาญจน์" เต็มไปด้วยเรื่องราวในอดีตที่น่าสนใจ แหล่งอารยธรรมเก่าแก่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ และเป็นสถานที่ตั้งของสะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของไทยในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ว่าจะเป็นป่าเขาลำเนาไพร ถ้ำและน้ำตก 
           แต่วันนี้เราจะพาทุกคนไปท่องเที่ยวกับเราที่ สุสานสัมพันธมิตร หรือ ป่าช้าอังกฤษ และ สะพานข้ามแม่น้ำแคว

'ท่องเที่ยววันหยุด'
สะพานข้ามแม่น้ำแคว อำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี 

     

         สะพานข้ามแม่น้ำแคว ตั้งอยู่ที่ตำบลท่ามะขาม ห่างจากตัวเมืองไปทางทิศเหนือตามทางหลวงหมายเลข 323 ประมาณ 4 กิโลเมตร แยกซ้ายประมาณ 400 เมตร มีป้ายชี้บอกทางไว้ชัดเจน เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดาและนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน และกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดียอีกจำนวนมากมาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัยตลอดจนการขาดแคลนอาหารทำให้เชลยศึกจำนวนหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง

สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก อำเภอเมือง จ.กาญจนบุรี  

     สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก ตั้งอยู่ริมถนนแสงชูโต (ทางหลวงหมายเลข 323) ก่อนจะเข้าตัวเมือง สุสานแห่งนี้เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตร ที่เสียชีวิตในระหว่างการสร้างทางรถไฟสายมรณะ บริเวณสุสานมีเนื้อที่กว้างขวางสวยงามและเงียบสงบ ชวนให้รำลึกถึงเหตุการณ์การสู้รบและผลลัพธ์ที่ตามมา ทั้งนี้ สุสานแห่งนี้บรรจุศพทหารเชลยศึกถึง 6,982 หลุม แหล่งที่มา



'อาเซียน'
         ในสภาวะแห่งยุคทุนนิยม ที่เศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนและผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ก้าวรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ประกอบกับประเทศต่าง ๆ นั้นอยู่รวมกันเป็นสังคมโลก ไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายได้ จึงต้องมีการรวมตัวกันของประเทศในแต่ละภูมิภาคเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ร่วมและพัฒนาประเทศในภูมิภาคไปพร้อม ๆ กัน ด้วยเหตุนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ อาเซียน จึงได้มีข้อตกลงให้อาเซียนรวมตัวเป็นชุมชนหรือประชาคมเดียวกันให้สำเร็จภายในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015)
          เราจะมาดูการรวมตัวกันของประเทศในอาเซียนว่ามีการรวมตัวกันได้อย่างไร จนมาเป็นอาเซียนในปัจจุบัน




         โดยอาเซียนหรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  (ASEAN : The Association of South East Asian Nations) ได้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2510 โดยประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียน คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ต่อมาในปีพ.ศ.2527 บรูไน ดารุสซาลาม ได้เข้ามาเป็นสมาชิก ตามด้วยเวียดนามเข้ามาเป็นสมาชิกเมื่อ พ.ศ. 2538  ขณะที่พม่าและลาวเข้ามาเป็นสมาชิกใน พ.ศ.2540 และประเทศสุดท้ายคือกัมพูชา เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน เมื่อ พ.ศ. 2542  ปัจจุบันอาเซียนมีประเทศสมาชิกทั้งหมด 10 ประเทศแหล่งที่มา


'สวดมนต์ข้ามปี'
         "คนเราทุกคนต้องการชีวิตที่ดีต้อนรับปีใหม่ ประกอบกับภาพอุบัติเหตุ และยอดผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้ใครหลายคนหันหน้าเข้าหาสิ่งดีๆ ด้วยการสวดมนต์ข้ามปีเสริมความเป็นสิริมงคลให้ตัวเอง และครอบครัว ซึ่งการสวดมนต์เป็นวิถีพุทธอยู่แล้ว เป็นสิ่งที่พระภิกษุสงฆ์ใช้ถ่ายทอดหลักคำสอนของพุทธเจ้า หรือเรียกว่า มุขปาฐะ ให้นำไปประพฤติปฏิบัติ เป็นการภาวนาธรรมให้จิตใจสงบในเบื้องต้น ถือเป็นการทำความดีอย่างหนึ่ง ช่วยสร้างจิตให้เกิดกุศลก่อให้เกิดความสุข"



       
          ส่วนอีกหนึ่งปัจจัยที่คนไทยหันมาเข้าวัด และชวนกันออกมาสวดมนต์ข้ามปีกันมากขึ้น อาจเป็นเพราะต้องการหลีกหนีความเครียดจากปัญหาสังคม และการเมืองที่วุ่นวายก็เป็นไปได้นะคะ อิอิอิแหล่งที่มา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น